สวัสดีค่ะ เราจะมาเล่าเรื่องที่อยากจะเปลี่ยนคริสตจักรมากๆ จริงๆก็มีความคิดนี้มาหลายปีแล้ว จะเล่าสาเหตุที่อยากเปลี่ยนคริสตจักรให้ฟังค่ะ
คือเราเองตอนสมัยไม่มีงานทำเขาก็ไม่ได้บีบบังคับให้เราถวายสิบลดเลย แต่พอเรามีงานการทำแล้วเขาบีบบังคับถวายสิบลดโดยการถวายตามจำนวนเงิน เช่น เราได้เงิน 12000 ถวาย 1200 ซึ่งเราเองไม่ชอบตรงจุดๆนี้มาก เพราะค่าใช้จ่ายเราเยอะมากทั้งค่าดูแลครอบครัว ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าของใช้ในชีวิตประจำวัน ฯลฯ คือเราโดนผู้นำโบสถ์ข่มขู่ว่า "ถ้าเธอไม่ถวายเงินตามที่เขาบอกพระเจ้าจะไม่อวยพร" เขาพูดแบบนี้กับหนูตอนเรียนไบเบิ้ลทุกครั้ง อย่างต่อมาที่อยากย้ายคริสตจักรก็คือ "การแบ่งชนชั้นทางความเชื่อ" คือปกติแล้ว(อันนี้ได้คุยจากเพื่อนต่างโบสถ์มา) เขาจะไม่มีการแบ่งชนชั้นทางความเชื่ออย่างชัดเจนและทุกคนที่อยู่เขาต้องเติบโตไปด้วยกัน มีความเสมอภาคกันอยู่แล้ว เช่น คนนี้เป็นทั้งลูกแกะ+พี่เลี้ยง ไปในตัวไม่มีการแบ่งระดับอย่างชัดเจน แต่โบสถ์เรานั้นมีการแบ่งระดับความเชื่ออย่างชัดเจนซึ่งคนที่จะประเมินนั้นเป็นผู้นำโบสถ์ เขาเหมือนประเมินตามใจตัวผู้นำโบสถ์ เช่น เราเป็นลูกแกะ คนนี้เป็นสาวก คนนี้เป็นผู้เลี้ยงแกะ แล้วทีนี้มีการแบ่งความเชื่อโดยการทำตามที่เขาบอกทุกอย่าง เช่น ห้ามมาโบสถ์สาย ต้องถวายสิบลดตามจำนวนเงิน ต้องมาเรียนไบเบิ้ลทุกสัปดาห์ แล้วเวลาเขามีหัวข้ออธิษฐานทีไรเขาจะใสแต่คนที่มีผลประโยชน์กับทางโบสถ์ อีกอย่างก็คือต้องทำยังไงก็ได้ให้คนที่โบสถ์เป็นที่ยอมรับเรา คือเราอึดอัดมากๆจริงๆ เพราะคนที่โบสถ์เขาเหยียดหยามเราในด้านความเชื่อ เช่น มาโบสถ์สาย=ไม่รักพระเจ้า ไปเที่ยวกับเพื่อนหรือไปดูคอนเสิร์ต=ไม่รักพระเจ้า เป็นต้น
อย่างต่อมาก็คือ "บีบบังคับให้ไปค่าย" คือหนูไม่ชอบไปค่ายไงคะ ไปทีไรก็มีแต่เดิมๆทุกปีไม่มีอะไรใหม่ๆเลย แล้วโบสถ์เราบีบบังคับให้ไปค่ายเขาพูดว่า "ถ้าเราไม่ไปค่ายพระเจ้าจะไม่อวยพร" เราไปค่ายด้วยความไม่เต็มใจทุกปีค่ะ ปีล่าสุดเราเองก็ไม่สนุกกับการไปค่ายเลยโดนบีบบังคับให้ทำกิจกรรมทุกอย่างหมดห้ามหนีเด็ดขาด ข้อต่อมาเลยคือโดนบีบบังคับให้เขียนคำพยานทุกครั้งที่เรียนไบเบิ้ลค่ะ หนูไม่ชอบเขียนอะไรยาวๆในการเรียนไบเบิ้ล เรียนเสร็จก็คือจบใช่ไหมคะ แต่นี่เขาให้เขียนคำพยานว่าวันนี้เรียนอะไร แล้วคำพยานของเราในเรื่องนี้เป็นยังไงคือเราไม่ชอบกับการเขียนแบบนี้ค่ะ รู้สึกไม่อยากไปเรียนไบเบิ้ลเลย อีกข้อเลยก็คือนอกจากแบ่งชนชั้นทางความเชื่อแล้ว เขา "แบ่งชนชั้นฐานะของสังคมด้วย" เช่น คนนี้รวยมาก=มีผลประโยชน์กับทางโบสถ์มาก คนจนๆที่มีรายได้น้อย=ไม่มีผลประโยชน์อะไรเลย แถมอีกทั้งเขาไม่อยากคุยกับหนูด้วยทั้งๆที่หนูไม่ได้ผิด ที่โบสถ์เราจะมีอาชีพธุรกิจส่วนตัว อาจารย์มหาวิทยาลัย หัวหน้างาน ฯลฯ ส่วนเราเป็นแค่ทำงานราชการในตำแหน่งที่ต่ำมาก เขามาเหยียดหยามตั้งแต่ความเชื่อยันฐานะการเงิน เขามองว่าเราเป็นขยะของโบสถ์ก็มีค่ะ หนูคุยทาง social เขาไม่คุยด้วย block ไปเลยก็มีค่ะ (เหมือนประมาณว่าเขาไม่เอาเราอยู่แล้ว) ส่วนอีกเรื่องนึงก็คือเขาเคร่งมากเกินไปกับการแสวงหาพระเจ้าคือเขาทิ้งทุกอย่างไปหาพระเจ้าอย่างเดียว บางคนยอมทิ้งงานประจำไปอยู่กับพระเจ้าก็มีค่ะ คือเราเองก็อึดอัดใจกับสังคมที่โบสถ์และก็ความเคร่งของกฏระเบียบในโบสถ์เราค่ะ และก็อีกอย่างนึงก็คือโบสถ์เราชอบเหยียดโบสถ์อื่นว่า โบสถ์อื่นไม่สร้างสาวก มีโบสถ์เราเท่านั้นที่สร้างสาวก โบสถ์อื่นสอนไบเบิ้ลผิด ของเราถูกต้องที่สุด โบสถ์อื่นแย่อย่างนู้นอย่างนี้ แต่โบสถ์เราดีที่สุด เป็นต้น
ประเด็นที่เราจะพูดถึงคือ เราอยากย้ายโบสถ์แต่เรายังผูกพันและก็ติดกับพี่เลี้ยงฝ่ายวิญญาณมากๆ ค่ะ เขาเป็นคนที่ดูแลเราดีมากๆ เป็นคนที่ให้โอกาสเราในหลายๆเรื่อง ทั้งในเรื่องการเรียน การแนะนำเข้าทำงาน รวมไปถึงชีวิตส่วนตัว เขาเป็นคนที่ดีกับเรามากๆ แต่ไม่อยากจะทิ้งเขาไปเลย (พี่เลี้ยงคนนี้เขาไม่ค่อยมีเพื่อนสักเท่าไหร่) ที่อยู่ในโบสถ์ต่อก็อย่างแรกเลยคือเพราะพี่เลี้ยงฝ่ายวิญญาณเพียงอย่างเดียวค่ะ นอกนั้นอยู่ไม่ได้กับสังคมที่โบสถ์อย่างที่เรากล่าวมาทั้งหมดค่ะ
ทีนี้เราเคยลองไปนมัสการที่โบสถ์นึงแถวสภาคริสตจักรซึ่งเพื่อนอยู่ที่นั่นคือไปแล้วรู้สึกมีความสุขมากๆ เขาต้อนรับเราดีมากๆ และก็ทุกคนรักกันมากๆ กลมเกลียวกันสุดๆ เขาคุยได้ทุกเรื่องเลยค่ะ รู้สึกว่าเราสบายใจส่วนนึง และก็เขาก็ไม่มีการแบ่งชนชั้นทางความเชื่อ ไม่มีการบีบบังคับถวายสิบลดตามจำนวนเงิน ไม่มีการบีบบังคับให้ไปค่าย ไม่มีการบีบบังคับให้เรียนไบเบิ้ลแต่อย่างใด มาสายเขาก็ไม่มีใครว่า แถมนมัสการช่วงบ่าย และก็ที่ที่เราไปนั้นเขาเคารพในความเป็นส่วนตัวของเรามากเลยค่ะ แต่โบสถ์นี้ไม่มีสอนไบเบิ้ลเลยลังเลอยู่ว่าจะไปดีไหม ถ้าโบสถ์ที่เราอยู่ทุกวันนี้กับโบสถ์ของเพื่อนหนูอยากไปโบสถ์เพื่อนมากกว่า เลยอยากถามว่าเราจะย้ายโบสถ์เลยดีไหมคะ ตอนนี้รอจังหวะที่จะย้ายโบสถ์หลังจากรับปริญญาเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ
ปล.ทางโบสถ์เขาพูดว่าถ้าเราย้ายโบสถ์เมื่อไหร่เขาจะตัดขาดจากเราโดยทันทีและไม่มีการอธิษฐานเผื่อด้วย
อยากเปลี่ยนคริสตจักรแต่ติดพี่เลี้ยงทำยังไงดี
คือเราเองตอนสมัยไม่มีงานทำเขาก็ไม่ได้บีบบังคับให้เราถวายสิบลดเลย แต่พอเรามีงานการทำแล้วเขาบีบบังคับถวายสิบลดโดยการถวายตามจำนวนเงิน เช่น เราได้เงิน 12000 ถวาย 1200 ซึ่งเราเองไม่ชอบตรงจุดๆนี้มาก เพราะค่าใช้จ่ายเราเยอะมากทั้งค่าดูแลครอบครัว ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าของใช้ในชีวิตประจำวัน ฯลฯ คือเราโดนผู้นำโบสถ์ข่มขู่ว่า "ถ้าเธอไม่ถวายเงินตามที่เขาบอกพระเจ้าจะไม่อวยพร" เขาพูดแบบนี้กับหนูตอนเรียนไบเบิ้ลทุกครั้ง อย่างต่อมาที่อยากย้ายคริสตจักรก็คือ "การแบ่งชนชั้นทางความเชื่อ" คือปกติแล้ว(อันนี้ได้คุยจากเพื่อนต่างโบสถ์มา) เขาจะไม่มีการแบ่งชนชั้นทางความเชื่ออย่างชัดเจนและทุกคนที่อยู่เขาต้องเติบโตไปด้วยกัน มีความเสมอภาคกันอยู่แล้ว เช่น คนนี้เป็นทั้งลูกแกะ+พี่เลี้ยง ไปในตัวไม่มีการแบ่งระดับอย่างชัดเจน แต่โบสถ์เรานั้นมีการแบ่งระดับความเชื่ออย่างชัดเจนซึ่งคนที่จะประเมินนั้นเป็นผู้นำโบสถ์ เขาเหมือนประเมินตามใจตัวผู้นำโบสถ์ เช่น เราเป็นลูกแกะ คนนี้เป็นสาวก คนนี้เป็นผู้เลี้ยงแกะ แล้วทีนี้มีการแบ่งความเชื่อโดยการทำตามที่เขาบอกทุกอย่าง เช่น ห้ามมาโบสถ์สาย ต้องถวายสิบลดตามจำนวนเงิน ต้องมาเรียนไบเบิ้ลทุกสัปดาห์ แล้วเวลาเขามีหัวข้ออธิษฐานทีไรเขาจะใสแต่คนที่มีผลประโยชน์กับทางโบสถ์ อีกอย่างก็คือต้องทำยังไงก็ได้ให้คนที่โบสถ์เป็นที่ยอมรับเรา คือเราอึดอัดมากๆจริงๆ เพราะคนที่โบสถ์เขาเหยียดหยามเราในด้านความเชื่อ เช่น มาโบสถ์สาย=ไม่รักพระเจ้า ไปเที่ยวกับเพื่อนหรือไปดูคอนเสิร์ต=ไม่รักพระเจ้า เป็นต้น
อย่างต่อมาก็คือ "บีบบังคับให้ไปค่าย" คือหนูไม่ชอบไปค่ายไงคะ ไปทีไรก็มีแต่เดิมๆทุกปีไม่มีอะไรใหม่ๆเลย แล้วโบสถ์เราบีบบังคับให้ไปค่ายเขาพูดว่า "ถ้าเราไม่ไปค่ายพระเจ้าจะไม่อวยพร" เราไปค่ายด้วยความไม่เต็มใจทุกปีค่ะ ปีล่าสุดเราเองก็ไม่สนุกกับการไปค่ายเลยโดนบีบบังคับให้ทำกิจกรรมทุกอย่างหมดห้ามหนีเด็ดขาด ข้อต่อมาเลยคือโดนบีบบังคับให้เขียนคำพยานทุกครั้งที่เรียนไบเบิ้ลค่ะ หนูไม่ชอบเขียนอะไรยาวๆในการเรียนไบเบิ้ล เรียนเสร็จก็คือจบใช่ไหมคะ แต่นี่เขาให้เขียนคำพยานว่าวันนี้เรียนอะไร แล้วคำพยานของเราในเรื่องนี้เป็นยังไงคือเราไม่ชอบกับการเขียนแบบนี้ค่ะ รู้สึกไม่อยากไปเรียนไบเบิ้ลเลย อีกข้อเลยก็คือนอกจากแบ่งชนชั้นทางความเชื่อแล้ว เขา "แบ่งชนชั้นฐานะของสังคมด้วย" เช่น คนนี้รวยมาก=มีผลประโยชน์กับทางโบสถ์มาก คนจนๆที่มีรายได้น้อย=ไม่มีผลประโยชน์อะไรเลย แถมอีกทั้งเขาไม่อยากคุยกับหนูด้วยทั้งๆที่หนูไม่ได้ผิด ที่โบสถ์เราจะมีอาชีพธุรกิจส่วนตัว อาจารย์มหาวิทยาลัย หัวหน้างาน ฯลฯ ส่วนเราเป็นแค่ทำงานราชการในตำแหน่งที่ต่ำมาก เขามาเหยียดหยามตั้งแต่ความเชื่อยันฐานะการเงิน เขามองว่าเราเป็นขยะของโบสถ์ก็มีค่ะ หนูคุยทาง social เขาไม่คุยด้วย block ไปเลยก็มีค่ะ (เหมือนประมาณว่าเขาไม่เอาเราอยู่แล้ว) ส่วนอีกเรื่องนึงก็คือเขาเคร่งมากเกินไปกับการแสวงหาพระเจ้าคือเขาทิ้งทุกอย่างไปหาพระเจ้าอย่างเดียว บางคนยอมทิ้งงานประจำไปอยู่กับพระเจ้าก็มีค่ะ คือเราเองก็อึดอัดใจกับสังคมที่โบสถ์และก็ความเคร่งของกฏระเบียบในโบสถ์เราค่ะ และก็อีกอย่างนึงก็คือโบสถ์เราชอบเหยียดโบสถ์อื่นว่า โบสถ์อื่นไม่สร้างสาวก มีโบสถ์เราเท่านั้นที่สร้างสาวก โบสถ์อื่นสอนไบเบิ้ลผิด ของเราถูกต้องที่สุด โบสถ์อื่นแย่อย่างนู้นอย่างนี้ แต่โบสถ์เราดีที่สุด เป็นต้น
ประเด็นที่เราจะพูดถึงคือ เราอยากย้ายโบสถ์แต่เรายังผูกพันและก็ติดกับพี่เลี้ยงฝ่ายวิญญาณมากๆ ค่ะ เขาเป็นคนที่ดูแลเราดีมากๆ เป็นคนที่ให้โอกาสเราในหลายๆเรื่อง ทั้งในเรื่องการเรียน การแนะนำเข้าทำงาน รวมไปถึงชีวิตส่วนตัว เขาเป็นคนที่ดีกับเรามากๆ แต่ไม่อยากจะทิ้งเขาไปเลย (พี่เลี้ยงคนนี้เขาไม่ค่อยมีเพื่อนสักเท่าไหร่) ที่อยู่ในโบสถ์ต่อก็อย่างแรกเลยคือเพราะพี่เลี้ยงฝ่ายวิญญาณเพียงอย่างเดียวค่ะ นอกนั้นอยู่ไม่ได้กับสังคมที่โบสถ์อย่างที่เรากล่าวมาทั้งหมดค่ะ
ทีนี้เราเคยลองไปนมัสการที่โบสถ์นึงแถวสภาคริสตจักรซึ่งเพื่อนอยู่ที่นั่นคือไปแล้วรู้สึกมีความสุขมากๆ เขาต้อนรับเราดีมากๆ และก็ทุกคนรักกันมากๆ กลมเกลียวกันสุดๆ เขาคุยได้ทุกเรื่องเลยค่ะ รู้สึกว่าเราสบายใจส่วนนึง และก็เขาก็ไม่มีการแบ่งชนชั้นทางความเชื่อ ไม่มีการบีบบังคับถวายสิบลดตามจำนวนเงิน ไม่มีการบีบบังคับให้ไปค่าย ไม่มีการบีบบังคับให้เรียนไบเบิ้ลแต่อย่างใด มาสายเขาก็ไม่มีใครว่า แถมนมัสการช่วงบ่าย และก็ที่ที่เราไปนั้นเขาเคารพในความเป็นส่วนตัวของเรามากเลยค่ะ แต่โบสถ์นี้ไม่มีสอนไบเบิ้ลเลยลังเลอยู่ว่าจะไปดีไหม ถ้าโบสถ์ที่เราอยู่ทุกวันนี้กับโบสถ์ของเพื่อนหนูอยากไปโบสถ์เพื่อนมากกว่า เลยอยากถามว่าเราจะย้ายโบสถ์เลยดีไหมคะ ตอนนี้รอจังหวะที่จะย้ายโบสถ์หลังจากรับปริญญาเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ
ปล.ทางโบสถ์เขาพูดว่าถ้าเราย้ายโบสถ์เมื่อไหร่เขาจะตัดขาดจากเราโดยทันทีและไม่มีการอธิษฐานเผื่อด้วย